จากผลงานวิจัยการ ดูดซึมของอาหารเสริมรูปแบบเจล และ การเพิ่มสมรรถภาพของร่างกายกับอาหารเสริมแบบเจล

โดยอาหารเสริมแบบเจล
ดีกว่า แบบเม็ด 5 เท่า !!

จากการวิจัยของ ม.มหิดล และ ม.แม่ฟ้าหลวงมหาวิทยาลัยชั้นนำ ในด้านการแพทย์และการชะลอวัย

เทคโนโลยีของสารอาหาร ในรูปแบบเจลนั้นถูกพัฒนาให้เกิดสภาวะระดับไมโคร
ที่บรรจุสารอาหารเอาไว้ข้างในสารอาหารรูปแบบเจลนั้นกลืนง่าย 

และ พกพาสะดวก และเป็นการง่ายที่จะแบ่งปันสิ่งที่ดีให้คนรอบข้าง 

ซึ่งสารอาหารแบบเจลนี้จะเป็นสารอาหารที่จะได้รับความนิยมมากที่สุดใน ทศวรรษที่ 21 นี้

ความแตกต่างของยาแต่ล่ะประเภท

ยารูปแบบเม็ดนั้นเป็นรูปแบบพื้นฐานของอาหารเสริม

สารอาหารแบบเม็ดนั้นมีหลากหลายขนาดและรูปร่าง เพื่อให้แยกแยะชนิดกันได้ 

ปกติแล้วเม็ดที่มีขนาดใหญ่ลักษณะคล้ายรูปร่างคล้ายสี่เหลี่ยมผืนผ้า มักจะเป็นวิตามิน หรือสมุนไพรที่มีปริมาณสารออกฤทธิ์สูง

นอกจากการใช้สารเคมีมากมายในกระบวนการผลิตแล้ว สารอาหารแบบเม็ด ยังมีข้อเสียอื่นๆ อีก  

สารอาหารแบบเม็ดนั้น ถูกออกแบบมาให้แตกออกหลังจากถูกกลืนลงไปแล้ว 

โดยเม็ดยาจะแตกออก (ถูกย่อย) ภายใน 30 – 45 นาทีด้วยกรดในกระเพาะอาหาร ผลรวมของเม็ดของสารอาหารนั้น ยังคงอยู่แม้กระบวนการย่อยจะเรียบร้อยแล้ว

ซึ่งอาจจะใช้เวลาถึง 1 – 3 ชั่วโมง ก่อนที่สารออกฤทธิ์จะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด

สารอาหารในรูปแบบผง

สารอาหารแบบผงนั้น จะเป็นผงแห้งๆ ออกแบบมาให้ผสมกับน้ำ, นม, น้ำผลไม้, หรือของเหลวอื่นๆ

แต่ในที่ที่มีความชื้นสูง เช่นในประเทศไทย สารอาหารแบบผง จะดูดเอาความชื้นจากในอากาศได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ระยะเวลาในการเก็บรักษาสั้นลง 

ข้อเสียที่สำคัญของสารอาหารแบบผงคือ จำเป็นต้องมีของเหลวที่ใช้ผสม

 

ไม่ว่าจะเป็น น้ำ, นม, น้ำผลไม้ ซึ่งจะเป็นอันตรายยิ่งกว่านั้น 

ถ้าสูดเอาผงที่ฟุ้งกระจาย ระหว่างที่ตักสารอาหาร หรือระหว่างที่ผสม นอก จากนี้ยังต้องการอุปกรณ์ ในการตวงและผสม ต้องล้างภาชนะทุกครั้งรวมถึงคราบสกปรกที่จะเกิดขึ้นถ้าทำหกระหว่างชง

สารอาหารในรูปแบบน้ำ

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในรูปแบบน้ำนั้น ได้นำเข้าผลไม้จากต่างประเทศบางชนิด
มาบดและผสมน้ำหรือน้ำผลไม้ ซึ่งส่วนใหญ่ จะบรรจุอยู่ในขวดแก้ว ขนาด 1 ลิตร 

แต่โชคไม่ดีที่สารอาหารแบบน้ำที่ผลิตจากผลไม้ทั้งลูกนั้น จะไม่ได้เป็นเนื้อเดียวกัน โดยจะมีส่วนผสมของเปลือก เมล็ด และเนื้อผลไม้ ที่ถูกปั่นแล้ว ซึ่งสิ่งเหล่านั้น ไม่ละลายน้ำ 

เพียงแค่ 30 นาทีหลังจากบรรจุขวด ด้านล่างของขวดจะเต็มไปด้วยตะกอน ที่เป็นส่วนของเมล็ด เปลือก และเนื้อผลไม้ โดยปริมาณหรือตะกอน ในแต่ละขวดก็ไม่ค่อยเท่ากัน 

ซึ่งตะกอนเหล่านั้น ทำให้สารอาหารแบบน้ำ จำเป็นต้องเขย่า ให้เข้ากันดีก่อนดื่ม 

ซึ่งคำเตือนเหล่านี้ จะปรากฏให้เห็นบนฉลาก ถ้าไม่ได้เขย่าให้เข้ากันก่อนดื่ม สิ่งที่ได้ก็คือสารอาหารที่มีความเข้มข้นของสารออกฤทธิ์ต่ำด้านบนของขวด และ สารอาหาร ที่มีความเข้มข้นของสารออกฤทธิ์สูง ด้านล่างของขวด (ส่วนใหญ่จะอยู่ในตะกอน) 

ซึ่งทำให้ได้รับสารอาหาร ไม่เท่ากันในแต่ละครั้ง ซึ่งเป็นข้อเสียของสารอาหารแบบน้ำ และ ถ้าดูที่ฉลากจะเห็น คำเตือนอีกอย่าง “แช่เย็นหลังจากเปิดขวด” ในอากาศนั้น เต็มไปด้วยแบคทีเรีย ที่ทำให้อาหารเน่าเสีย ซึ่งง่ายต่อการปนเปื้อนลงในเครื่องดื่ม ทุกครั้งที่เปิดขวด แบคทีเรียสามารถเติบโต ได้อย่างรวดเร็วที่อุณหภูมิห้อง เมื่อขวดเครื่องดื่ม ถูกลืมเอาไว้นอกตู้เย็น 

ดังนั้นสารกันเสีย จึงถูกนำมาใช้ในปริมาณที่สูง เพื่อป้องกันการเติบโต ของแบคทีเรีย สารอาหารแบบน้ำส่วนใหญ่ จะบรรจุอยู่ในขวดขนาดใหญ่ ทำให้ไม่สะดวก ในการพกพา 

และจำเป็นต้องแช่ตู้เย็น ยากที่จะพกพา ไปที่ทำงาน ระหว่างเดินทาง หรือท่องเที่ยว ซึ่งไม่สะดวก และปริมาณสารอาหารที่ได้รับ แต่ละครั้ง ก็ไม่แน่นอนอีกด้วย

ให้คำปรึกษาสุขภาพ ฟรี!!

โดยทีมงานเภสัช และ ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ ที่มี ประสบการณ์มากกว่า 10 ปี

These statements have not been evaluated by the Food and Drug Administration. This product is not intended to diagnose, treat, cure or prevent any disease.

Open